การชุบแข็งอินดักชั่น (Induction Heating )
เป็นกระบวนการชุบเหนี่ยวนำไฟฟ้าเพื่อให้เกิดความร้อนแก่ผิวของชิ้นงานและทำให้มีความแข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว งานโลหะ ที่ทำด้วยเหล็กกล้าคาร์บอนปานกลาง หรือเหล็กกล้าผสมที่มีปริมาณคาร์บอนปานกลางที่ต้องการผิวแข็ง และเนื้อในเหนียวสามารถกระทำได้โดยการชุบแข็งด้วยวิธีอินดักชั่นอินดักชั่น เป็นการให้ความร้อนแก่ผิวงานโดยอาศัยหลักการเหนี่ยวนำทางไฟฟ้าซึ่งสามารถให้ความร้อนได้เร็ว งานสะอาด สามารถกำหนดความลึกของชั้นผิวแข็ง ชิ้นงานไม่สัมผัสกับแหล่งที่ให้ความร้อนโดยตรง และสามารถเลือกตำแหน่งที่จะให้ความร้อนได้ตามความต้องการ
เทคโนโลยีการชุบแข็งด้วยวิธีอินดักชั่น สามารถนำมาใช้กับงานที่รูปทรงเป็นเอกลักษณ์กัน หรืองานที่มีรูปร่างซับซ้อนก็ได้และสามารถ ชุบให้แข็งเฉพาะผิวหรือแข็งตลอดทั้งตัว ทางบริษัทรับบริการชุบแข็งชิ้นงานให้ผิวแข็งตามที่ลูกค้าต้องการ เราสามารถควบคุมองค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับการชุบงานแต่ละชนิด
ชิ้นงานที่แนะนำให้ชุบแข็งด้วยวิธีอินดักชั่น ได้แก่
การชุบแข็งด้วยวิธีอินดักชั่น มักจะใช้ความถี่ตั้งแต่ 1000 Hz ขึ้นไป เครื่องอินดักชั่นสำหรับการชุบแข็งจึงมีทั้งชนิดความถี่ปานกลางและความถี่สูง บริษัทมีเครื่องอินดักชั่นความถี่ตั้งแต่10-200 kHZ กำลังไฟฟ้า 10-250 kW ไว้บริการตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงเฟืองขนาดใหญ่ ประเภทโลหะ S45 , S50C , SCM440 , SKS3 , SUJ2 และเหล็กอื่นๆที่มีคาร์บอลผสมอยู่ในเนื้อเหล็กไม่น้อยกว่า 0.4
รูปภาพตัวอย่างชื้นงาน
การชุบแข็งเตาสูญญากาศ (Vacuum Heat Treatment)
เหมาะสำหรับการอบชุบชิ้นงานหรือเครื่องมือที่ทำจากเหล็กชนิดต่างๆ (Convective & Heating) ตัวอย่างงานที่ชุบแข็งด้วยเตาสูญญากาศ เหล็กที่เหมาะสม เหล็กร้อน เหล็กเย็น เหล็กไฮสปีด (เหล็ก SKD11 , SKD61 , SKD61, 2379 ) ได้แก่ แม่พิมพ์ปั๊ม,ตัด, เครื่องมือต่างๆ
ข้อดีของงานที่อบชุบด้วยเตาสูญญากาศ
- ผิวสะอาด
- งานไม่สูญเสียคาร์บอนออกไป
- ไม่เกิดอ๊อกซิเดชั่น
- เกิดการเปลี่ยนรูปน้อย
- แก้ไขและเปลี่ยนแปลงง่าย
- สามารถบัดกรีแข็งภายใต้สูญญากาศที่อุณหภูมิสูงได้
- ประหยัด
ประเภทโลหะเหล็ก เกรด SKD11 , DC53 , 2379 , K110 เป็นต้น
รูปภาพตัวอย่างชิ้นงาน
การชุบแข็งคาร์บูไรซิ่ง (Carburizing)
เป็นวิธีการอันน่าทึ่งวิธีหนึ่งที่สามารถเพิ่มคุณสมบัติที่ดีแก่ผิวของเพลา เฟือง และชิ้นส่วนของเครื่องจักรกลที่ต้องการความเค้นสูงอื่น ๆ ◊ คาร์บูไรซิ่ง สามารถทำการเปลี่ยนแปลงให้ชิ้นงาน ที่ทำด้วยเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำเปลี่ยนเป็นทั้งเหล็กกล้าคาร์บอนสูงที่ผิว และเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำที่แกนได้ในขณะเดียวกัน ◊ เมื่อทำการชุบชิ้นงาน ภายหลังจากทำคาร์บูไรซิ่งให้ได้โครงสร้างมาร์เทนไซด์ และทำการอบคืนไฟจะได้ความแข็งและความแข็งแรงของโครงสร้างที่ผิวสูง ประกอบกับแรงสนับสนุนจากความเค้นที่ตกค้างอันเนื่องมาจากปฏิกิริยาที่มีต่อกันระหว่างผิว และแกนในระหว่างการชุบ จึงเป็นผลทำให้เกิดการทนต่อการเสียดสีการทนต่อความล้าอันเกิดจากการบิดตัว และความล้าอันเกิดจากการหมุนสัมผัส(ROLLING-CONTACT) เป็นอย่างสูง
ประเภทโลหะ S45 , S50C , SCM440 , SCM415 ,SS400 เป็นต้น
ชิ้นส่วนต่างๆที่ทำด้วยเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำจะสามารถชุบแข็งได้ โดยการเติมคาร์บอน หรือเติมทั้งคาร์บอน และไนโตรเจน ในขบวนการชุบแข็ง ซึ่งจะได้ผิวงานที่แข็งทนต่อการเสียดสี และเนื้อภายในเหนียวรับแรงได้สูง เรามีเตาควบคุมบรรยากาศแบบทันสมัยล่าสุด จากทั้งยุโรป และอเมริกา ซึ่งสามารถชุบงานได้หลายวิธี เช่น คาร์บูไรซิ่ง (เติมคาร์บอน) และคาร์โบไนตรายดิ้ง (Carbonitriding, เติมทั้งคาร์บอน และไนโตรเจน) การอบชุบแข็งโดยทั่วไป (Hardening) การอบคืนตัว (Normalizing) การอบอ่อน (Annealing) หรืออบคลายเครียด (Stress relieving) โดยที่ผิวงานไม่เสียหายและสามารถ ควบคุมปริมาณ คาร์บอนที่ผิวงานได้แม่นยำ)
รูปภาพตัวอย่างชิ้นงาน
การชุบแข็งด้วยวิธีไนไตรดิ้ง (Nitriding)งานชุบแข็งผิว/ Surface Hardening
เป็นกระบวนการอบชุบแข็งผิวของโลหะ โดยที่ใช้การทำปฏิกิริยาเคมีไนโตรเจน โดยทั่วไปการอบชุบไนไตรจะต้องอบชุบในความร้อนระหว่าง 500-590 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตามการชุบไนไตรจะมีหลายวิธีซึ่งแตกต่างกันขึ้นอยู่กับ เครื่องชุบ และสื่อที่ใช้ (Media) เช่น การใช้ Gas, Plasma หรือ Saltbath
การชุบไนไตร เป็นกระบวนการชุบแบบใช้ Gas แอมโมเนีย ซึ่งใช้ระยะเวลาการอบชุบนาน 72 ชั่วโมง (สามารถกำหนดได้)ที่อุณหภูมิประมาณ 580 องศาเซลเซียส (ความยาวสูงสุดได้ถึง 3.3 เมตร) จึงทำให้งานชุบเข้าถึงผิวเหล็กได้ลึกกว่าการชุบไนไตรแบบ Saltbath อีกทั้งการชุบแบบ Gas นี้ทำให้สามารถชุบผ่านชิ้นงานที่เป็นลักษณะเกลียว หรือ กระบอกที่มีส่วนลึกๆ ได้โดยไม่คดอีกด้วย ทางบริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีการชุบที่ทันสมัยโดยใช้เครื่องมือ และเครื่องชุบที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ
เหตุผลในการนำโลหะมาชุบ Gas ไนไตร ได้แก่
โดยทั่วไปการชุบ Gas ไนไตรนี้จะใช้มากในอุตสาหกรรมพลาสติก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำเกลียวสกูร และกระบอกขับพลาสติก นอกจากนั้นการชุบแบบนี้ยังทำได้ใน อุตสาหกรรมการทำสปริง, เกียร, เข็มกระทุ้งแม่พิมพ์ และ กระบอกสูบ เป็นต้น
ประเภทโลหะ เหล็กทุกประเภท
ชิ้นส่วนต่างๆที่ทำด้วยเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำจะสามารถชุบแข็งได้ โดยการเติมคาร์บอน หรือเติมทั้งคาร์บอน และไนโตรเจนในขบวนการชุบแข็ง ซึ่งจะได้ผิวงานที่แข็งทนต่อการเสียดสี และเนื้อภายในเหนียวรับแรงได้สูง เรามีเตาควบคุมบรรยากาศแบบทันสมัยล่าสุด จากทั้งยุโรป และอเมริกา ซึ่งสามารถชุบงานได้หลายวิธี เช่น คาร์บูไรซิ่ง (เติมคาร์บอน) และคาร์โบไนตรายดิ้ง (Carbonitriding, เติมทั้งคาร์บอน และไนโตรเจน) การอบชุบแข็งโดยทั่วไป (Hardening) การอบคืนตัว (Normalizing) การอบอ่อน (Annealing) หรืออบคลายเครียด (Stress relieving) โดยที่ผิวงานไม่เสียหายและสามารถ ควบคุมปริมาณ คาร์บอนที่ผิวงานได้แม่นยำ)
รูปภาพตัวอย่างชื้นงาน
การชุบแข็งอินดักชั่น (Induction Heating )
เป็นกระบวนการชุบเหนี่ยวนำไฟฟ้าเพื่อให้เกิดความร้อนแก่ผิวของชิ้นงานและทำให้มีความแข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว งานโลหะ ที่ทำด้วยเหล็กกล้าคาร์บอนปานกลาง หรือเหล็กกล้าผสมที่มีปริมาณคาร์บอนปานกลางที่ต้องการผิวแข็ง และเนื้อในเหนียวสามารถกระทำได้โดยการชุบแข็งด้วยวิธีอินดักชั่นอินดักชั่น เป็นการให้ความร้อนแก่ผิวงานโดยอาศัยหลักการเหนี่ยวนำทางไฟฟ้าซึ่งสามารถให้ความร้อนได้เร็ว งานสะอาด สามารถกำหนดความลึกของชั้นผิวแข็ง ชิ้นงานไม่สัมผัสกับแหล่งที่ให้ความร้อนโดยตรง และสามารถเลือกตำแหน่งที่จะให้ความร้อนได้ตามความต้องการ
เทคโนโลยีการชุบแข็งด้วยวิธีอินดักชั่น สามารถนำมาใช้กับงานที่รูปทรงเป็นเอกลักษณ์กัน หรืองานที่มีรูปร่างซับซ้อนก็ได้และสามารถ ชุบให้แข็งเฉพาะผิวหรือแข็งตลอดทั้งตัว ทางบริษัทรับบริการชุบแข็งชิ้นงานให้ผิวแข็งตามที่ลูกค้าต้องการ เราสามารถควบคุมองค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับการชุบงานแต่ละชนิด
ชิ้นงานที่แนะนำให้ชุบแข็งด้วยวิธีอินดักชั่น ได้แก่
การชุบแข็งด้วยวิธีอินดักชั่น มักจะใช้ความถี่ตั้งแต่ 1000 Hz ขึ้นไป เครื่องอินดักชั่นสำหรับการชุบแข็งจึงมีทั้งชนิดความถี่ปานกลางและความถี่สูง บริษัทมีเครื่องอินดักชั่นความถี่ตั้งแต่10-200 kHZ กำลังไฟฟ้า 10-250 kW ไว้บริการตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงเฟืองขนาดใหญ่ ประเภทโลหะ S45 , S50C , SCM440 , SKS3 , SUJ2 และเหล็กอื่นๆที่มีคาร์บอลผสมอยู่ในเนื้อเหล็กไม่น้อยกว่า 0.4
รูปภาพตัวอย่างชื้นงาน
การอบอ่อน (Annealing)
เป็นกระบวนการปรับปรุงคุณสมบัติของ เหล็กที่ผ่านกระบวนการผลิตต่างๆ มาเช่น การขึ้นรูปร้อน (Forging, Hot Rolling) การขึ้นรูปเย็น (Cold Rolling, Drawing) การเชื่อม (Welding) หรือการหล่อ (Casting) ซึ่งมีลักษะที่ไม่ดีหลายประการเช่น ‟เหล็กที่ ผ่านการขึ้นรูปร้อนจะมีคุณสมบัติไม่สม่าเสมอ ส่วนที่เป็นมุมแหลมหรือบริเวณผิวจะมีความแข็งมากกว่าส่วนอื่น ๆเพราะบริเวณดังกล่าวจะมีเกรนขนาดเล็ก (ลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็วและถูกแรงกระแทกแรงอัดมากกว่าเนื้อเหล็กภายใน) ‟เหล็ก ที่ผ่านการขึ้นรูปเย็นมักจะมีความเครียด/ความเค้นที่เกิดการถูกอัดถูกบีบ ค้างอยู่บางส่วนทาให้มีความแข็งแรงไม่สม่าเสมอ สูญเสียความเหนียว ‟เหล็ก ที่ผ่านการเชื่อม จะได้รับความร้อนบางจุด (ขยายตัวเมื่อถูกความร้อน หดตัวเมื่อถูกปล่อยให้เย็น) ตรงจุดที่ได้รับความร้อนมักจะเกิดความเครียดตกค้างและมีโครงสร้างหรือ คุณสมบัติแตกต่างจากเนื้อเหล็กส่วนอื่น ๆ ‟เหล็กที่ผ่านงานหล่อจะมี คุณสมบัติที่ผิวและภายในหรือบริเวณที่เป็นส่วนหนาและบริเวณที่เป็นส่วนบาง แตกต่างกัน ส่วนที่เย็นตัวเร็วมักจะมีความแข็งสูง
ประเภทโลหะ เหล็กทุกประเภท ทองเหลือง แสตนเลส
ชิ้นส่วนต่างๆที่ทำด้วยเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำจะสามารถชุบแข็งได้ โดยการเติมคาร์บอน หรือเติมทั้งคาร์บอน และไนโตรเจน ในขบวนการชุบแข็ง ซึ่งจะได้ผิวงานที่แข็งทนต่อการเสียดสี และเนื้อภายในเหนียวรับแรงได้สูง เรามีเตาควบคุมบรรยากาศแบบทันสมัยล่าสุด จากทั้งยุโรป และอเมริกา ซึ่งสามารถชุบงานได้หลายวิธี เช่น คาร์บูไรซิ่ง (เติมคาร์บอน) และคาร์โบไนตรายดิ้ง (Carbonitriding, เติมทั้งคาร์บอน และไนโตรเจน) การอบชุบแข็งโดยทั่วไป (Hardening) การอบคืนตัว (Normalizing) การอบอ่อน (Annealing) หรืออบคลายเครียด (Stress relieving) โดยที่ผิวงานไม่เสียหายและสามารถ ควบคุมปริมาณ คาร์บอนที่ผิวงานได้แม่นยำ)
การรมดำ (Metal Blackening)
เป็นการเพิ่มความสวยงามและสร้างมูลค่าให้กับชิ้นงานป้องกันการลุกลามและกัดกร่อนของสนิมเหล็ก ผิวชิ้นงานที่ผ่านการรมดำมีขนาดความหนาเท่าเดิม
ประเภทโลหะ เหล็ก ทองเหลือง เป็นต้น
รูปภาพตัวอย่างชื้นงาน
การชุบแมงกานีสฟอตเฟต (Manganese Phosphate Coating)
การปรับสภาพผิวชิ้นงานก่อนชุบหรือพ่นสี เพิ่มการยึดเกราะของสีบนชิ้นงานให้ดียิ่งขึ้นและป้องกันการกัดกร่อนได้
โดนปกติแล้วการชุบฟอตเฟสนิยมชุบกับเหล็ก หรือ อลูมิเนียม
ประเภทโลหะ เหล็ก
รูปภาพตัวอย่างชื้นงาน
การชุบซิ้งค์หรือสังกะสี (Zinc Plating) (White Zing+Yellow Zing CR6)
มีคุณสมบัติช่วยป้องกันสนิม การกัดกร่อน และเพิ่มความสวยงามให้กับชิ้นงาน การชุบซิ้งค์เหมาะกับงานประเภทชิ้นส่วนยานยนต์ จักรยานยนต์ จักรยาน อิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของชิ้นงาน
ประเภทโลหะ เหล็ก
รูปภาพตัวอย่างชื้นงาน
การชุบนิเกิ้ล - โครเมี่ยม (Nickel - Chrome Plating)
มีคุณสมบัติในการป้องกันสนิม ป้องกันการกัดกร่อน และการเสียดสีได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเพิ่มความสวยงามให้แก่ชิ้นงาน เหมาะกับงานคุณภาพสูงที่ต้องการความแข็งแรงและความสวยงาม เช่น ชิ้นส่วน รถยนต์ มอเตอร์ไซด์ จักรยาน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องมือช่าง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
ประเภทโลหะ เหล็ก ทองเหลือง ซิ้งค์ อลูมิเนี่ยม
รูปภาพตัวอย่างชื้นงาน
การชุบ E.D.P. (Expoxy & Acrylic)
เป็นฟิล์มสีที่สามารถเคลือบผิวโลหะปกป้องรักษาวัตถุ ทนทานต่อสารเคมี น้ำมัน ความลื่น กันน้ำได้ กันการเกิด สนิมการผุกร่อน ความาสวยงาม สีสัน ความมันเงา ทำให้ดูมีมิติ เป็นต้น
ประเภทโลหะ เหล็ก
รูปภาพตัวอย่างชื้นงาน
การชุบ E.N. (Electroless Nikel Plating)
การทำให้ผิวโลหะเกิดรูพรุนน้อย และความหนาผิวเคลือบสม่ำเสมอตลอดชิ้นงานเหมาะสมกับงานประเภทที่ต้องความคุมขนาด ในงานเครื่องมือวัดหรือะไหล่เครื่องจักร ป้องกันการกัดกร่อนและความต้านทานการสึกหรอสูง กว่าผิวเคลือบนิเกิ้ลจากการเคลือบผิวด้วยไฟฟ้า ผิวเคลือบบัดกรีได้ง่าย เป็นต้น
ประเภทโลหะ เหล็ก
รูปภาพตัวอย่างชื้นงาน
การชุบอโนไดซ์ (Anodize)
คือกระบวนการป้องกันการผุกร่อนของโลหะอลูมิเนียม โดยทำให้เกิดออกไซด์ของอลูมิเนียมเคลือบผิว จะทำให้ผิว อลูมิเนียมทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดีมาก
ประเภทโลหะ อลูมิเนี่ยม
รูปภาพตัวอย่างชื้นงาน
การชุบไทเทเนียม (T.I.C.) (Titanium Coating)
เหมาะกับงานที่ต้องการความเที่ยงตรงสูงที่ต้องการการสึกหรอของชิ้นงาน สามารถใช้ได้กับงานหลากหลายไม่เพียงแค่ Cutting tool แต่ยังสามารถใช้ได้กับ แม่พิมพ์ปั๊ม (Puch die) wire-cutter , แม่พิมพ์ฉีดพลาสติกและให้ความสวยงามของชิ้นงานประเภทโลหะ เหล็ก
รูปภาพตัวอย่างชื้นงาน
ดึงเงาแสตนเลส (Electropolishing Stainless Steel
เป็นการดึงเงาด้วยไฟฟ้าและเคมีโดยมีการควบคุมที่ถูกหลักวิธีเพื่อให้ได้คุณภาพในด้านความสะอาดความเงางามของชิ้นงาน สามารถขัดได้ทุกซอกทุกมุมของชิ้นงานซึ่งการใช้หินขัดหรือล้อสักหลาดไม่สามารถทำได้ในซอกหรือมุมเล็กๆ ชิ้นงานที่ผ่านการ ELECTROPOLISHING ผิวงานจะเงาวับ ประหยัดเวลา ประหยัดแรงงาน ลบคมได้ในตัว แม้แต่ตามซอก มุม ที่เครื่องมือขัดเข้าไม่ถึง....