Submitted by admin on Thu, 05/09/2024 - 15:22

ปี 2023 ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ในแวดวงธุรกิจที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีได้มีการถือกำเนิดขึ้นอย่างเต็มตัวให้น่าจับตามอง โดยแนวโน้มธุรกิจค้าปลีกในปี 2024 และในต่อๆไปจะเข้าสู่ความคึกคักมากขึ้น เนื่องจากคู่แข่งของธุรกิจค้าปลีก คือ E-commerce ที่มีแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จึงทำให้ธุรกิจค้าปลีกเริ่มต้นสู่เปลี่ยนแปลงจากการขายแบบเดิม ๆ สู่การขายแบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มสัดส่วนในตลาดและรักษาฐานลูกค้าเดิม

          ข้อมูลที่น่าสนใจจากศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ ลูกค้ามีแนวโน้มการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นในช่วงปี 2023 ถึง 2024 เนื่องจากความรวดเร็วและความสะดวกสบาย โดยการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5-2.5% ธุรกิจค้าปลีกจึงต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ โดยเพิ่มช่องทางการขายที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การขายสินค้าแบบหน้าร้านและออนไลน์พร้อมกัน เพื่อตอบสนองความต้องการที่รวดเร็วของลูกค้า ดังนั้นการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อส่งเสริมการขายเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งผู้ประกอบการควรเตรียมความพร้อมและใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้น

การเติบโตในปี 2024 เทคโนโลยีอะไรจะช่วยส่งเสริมการขายสำหรับธุรกิจค้าปลีก

 

ปรับเปลี่ยนอย่างไรให้เป็น Smart Retail ที่มีความยั่งยืน

          การปรับเปลี่ยนรูปแบบไปสู่ Smart Retail อย่างยั่งยืน ผู้ประกอบการต้องทำความเข้าใจว่า อุตสาหกรรมค้าปลีกในประเทศไทยในปัจจุบันมีการแข่งขันหลักอยู่ที่การให้บริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ที่เข้ามาตอบสนองความต้องการและมอบประสบการณ์การซื้อสินค้าแบบ Omni Channel อีกทั้งยังเปิดให้คู่ค้าที่เป็นพันธมิตรได้เข้ามาช่วยเสริมและเติมเต็มการค้าปลีกให้เติบโตไปพร้อมกัน จึงกล่าวได้ว่า เทคโนโลยี คือ กลยุทธ์ที่อุตสาหกรรมค้าปลีกควรนำเข้ามาช่วยส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะร้านค้าที่มีเฉพาะหน้าร้าน หรือแบบออฟไลน์ เพื่อสร้างความรู้สึกใหม่ให้กับลูกค้า และที่สำคัญการมีเพียง Omni Channel อย่างเดียวยังไม่เพียงพอ เนื่องจากในปี 2024 กำลังซื้อและความต้องการซื้อสินค้าของกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ธุรกิจค้าปลีกจึงต้องมีแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานได้รอบด้าน ทั้งการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันทุกรูปแบบ, การขายสินค้า และการจัดส่งสินค้า

          นอกจากนี้เรื่องของการรับสินค้าที่มีความสำคัญ ธุรกิจค้าปลีกควรมีช่องทางการรับสินค้าที่หลากหลาย ให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความสะดวก ทั้งการรับสินค้าเองที่สาขา หน้าร้าน หรือบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงบ้าน แพลตฟอร์มแอปพลิเคชันจะเป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างผู้ประกอบการและผู้ซื้อ เพื่อนำเสนอการให้บริการแบบไร้รอยต่อ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ อีกทั้งยังช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าเอาไว้ได้ในที่เดียวได้อย่างไร้ที่ติ ธุรกิจค้าปลีกจะเปลี่ยนเข้าสู่ Smart Retail ที่มีความยั่งยืนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

เทคโนโลยีคู่ใจธุรกิจค้าปลีก ที่ปี 2024 ต้องมี

          เรื่องของเทคโนโลยีที่ในปี 2024 ที่ธุรกิจค้าปลีกควรนำมาใช้เป็นผู้ช่วย นอกจากเรื่องของแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันที่เราได้กล่าวไปข้างต้น ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่สามารถช่วยสร้างความยั่งยืน และต่อยอดไปสู่ความมั่นคงทางธุรกิจได้ดังนี้

1. เทคโนโลยีสำหรับจัดการข้อมูล หรือ Data คือ เทคโนโลยีสำหรับจัดการข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญต่อการเปลี่ยนธุรกิจค้าปลีกให้เป็น Smart Retail โดยเฉพาะในสภาวะที่พฤติกรรมการซื้อของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ข้อมูลเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจความต้องการและการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ การใช้ข้อมูลช่วยให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่าสินค้าที่มีพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกคน ข้อมูลยังช่วยให้เกิดการให้บริการแบบตัวต่อตัวที่แตกต่างไปจากการขายสินค้าแบบเดิม ด้วยเหตุนี้เทคโนโลยีเกี่ยวกับการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลมีความสำคัญอย่างมาก เช่น Cloud ที่มีความจุมหาศาลและสามารถปรับเพิ่มหรือลดขนาดได้ตามความต้องการ หรือ Edge Computer เพื่อประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถตัดสินใจเร่งด่วนได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ดังนั้น การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกก้าวสู่การเป็น Smart Retail อย่างยั่งยืนได้ในอนาคต.

2. เทคโนโลยีเพื่อการทำงานที่ราบรื่น เทคโนโลยีการสื่อสาร 5G เป็นตัวช่วยที่สำคัญในการส่งเสริมการขายในธุรกิจค้าปลีก เทคโนโลยีนี้มีความสำคัญอย่างมากเพราะไม่ว่าเทคโนโลยีจะทันสมัยแค่ไหนก็ตาม หากไม่มีการจัดการเครือข่ายการสื่อสารที่เหมาะสม อุปกรณ์ก็ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีการสื่อสาร 5G มีความรวดเร็วในการทำงานและเสถียรในเวลาแฝงที่ต่ำ ซึ่งสนับสนุนให้อุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ เช่น Edge Computer, เซ็นเซอร์ของ IoT, ระบบ Cloud และการประมวลผลข้อมูลเชิงลึกของ AI ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น เทคโนโลยี 5G เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรมีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขายในยุคปัจจุบัน และต่อไป.

3. เทคโนโลยีเพื่อสร้างความพึงพอใจ เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เพิ่มความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า การใช้เทคโนโลยีอุปกรณ์เซ็นเซอร์อัจฉริยะของ IoT ที่ทำงานร่วมกับระบบประมวลผลของ Cloud ช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก เพื่อวิเคราะห์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถออกแบบแคมเปญ คัดเลือกสินค้า และนำเสนอการให้บริการที่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าได้อย่างตรงจุด เสมือนกับการล่วงรู้ความต้องการล่วงหน้า นอกจากนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลจากเทคโนโลยียังช่วยให้อัปเดตเทรนด์ได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจถึงพฤติกรรมการช้อปปิ้งของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ช่วยให้ภาพรวมของการให้บริการมีความแปลกใหม่และเท่าทันกระแสอยู่เสมอในยุคปัจจุบันและอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

4. เทคโนโลยีเพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คือ เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในธุรกิจค้าปลีก การเชื่อมต่อธุรกิจค้าปลีกทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์อย่างเรียบเนียนช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม โดยใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และควบคุมการใช้พลังงานในอาคารค้าปลีกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการติดตั้งเซ็นเซอร์ IoT เพื่อควบคุมการใช้เครื่องปรับอากาศ ติดตามและควบคุมการใช้พลังงานไฟฟ้า ตรวจสอบการใช้ปริมาณน้ำ และตรวจสอบความเข้มของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ทั้งนี้ทั้งหมดช่วยให้ธุรกิจสามารถมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมั่นคง และลดค่าใช้จ่ายในด้านพลังงานและการซ่อมบำรุงลง ภาพรวมของเทคโนโลยีที่มีบทบาทต่ออุตสาหกรรมค้าปลีกในปี 2024 จะส่งผลต่อเนื่องไปยังปีต่อ ๆ ไป โดยการแข่งขันในแพลตฟอร์มออนไลน์ การให้บริการ และการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก ซึ่งเทคโนโลยีอัจฉริยะไม่ว่าจะเป็น AI, IoT หรือระบบอัตโนมัติ จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยธุรกิจประสบความสำเร็จ

 

Reference